Chef Next Door BKK: เชฟเทเบิ้ลอาหารไทยราคาไม่แพง บรรยากาศอบอุ่นได้ฟีลมากินข้าวบ้านเพื่อน
ลองมาเปิดประสบการณ์การกินใหม่กับเชฟเทเบิ้ลอาหารไทยงบไม่แรงที่ Chef Next Door BKK กันไหม (:
การกินอาหารแบบเชฟเทเบิ้ล (Chef’s Table) หรือการกินแบบตามใจเชฟกําลังเป็นเทรนด์การกินที่กําลังมาแรง หลายคนอาจกังวลว่ามันต้องราคาแรงแน่เลย
เราก็เคยคิดแบบนั้นแต่พอมาทําการค้นหาข้อมูล ก็มาค้นพบว่าที่จริงแล้วมันก็มี เชฟเทเบิ้ล (Chef’s Table) ในราคาจับต้องได้อยู่นะที่ Chef Next Door BKK ซึ่งเชฟเทเบิ้ลที่นี้เป็นอาหารไทยฟิวชั่น ราคาไม่แรงแถมบรรยากาศร้านอย่างชิว
พร้อมแล้วไปอร่อยตามใจเชฟกันจ้า
Cozy Chef’s Table Vibe
ตัวร้าน Chef Next Door BKK ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 42 จะเรียกว่าร้านเหมือนจะไม่ใช้เพราะตัวร้านตั้งอยู่ภายในบ้านสีเหลืองสดใสที่ถูกตกแต่งได้แบบอบอุ่น มีกลิ่นอาย Modern 70s ทําให้เราได้ฟีลเหมือนมานั่งกินข้าวที่บ้านเชฟ
Fine Dinning ภายใต้บรรยากาศ Casual ทําให้เรารู้สึกสบายมากๆ เอาจริงจะใส่ขาสั้นรองเท้าแตะชิวๆเหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อนเลยก็ยังได้
ภายในบ้างสุดอบอุ่นหลังนี้ ทาง Chef Next Door BKK ก็แยกออกเป็นหลากหลายโซนไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหารไม้ตรง common area โต๊ะเดี่ยว หรือโซนบาร์ที่เราสามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มชิวๆต่อได้ สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลยจ้า
Choose Your Favorite Seat
Center area
Corner area
Bar area
Private VIP Room
หรือถ้าใครต้องความส่วนตัว ต้องการพาแฟนมาเดทแบบไพรเวท Chef Next Door BKK ก็สามารถทําตามคําขอได้แน่นอน กับห้องส่วนตัวห้องนี้ เหมาะกับการมาสังสรรค์กับแก๊งค์เพื่อนหรือคนรู้ใจมากๆ ภายในห้องยังมีกีตาร์ เปียโนไว้ให้ใช้จัดปาร์ตี้คาราโอเกะกันด้วย สนุกแน่นอน!!
Tasting Menu 9-course
ทางร้าน Chef Next Door BKK มีทั้ง A La Carte และ Chef’s Table ให้เลือกได้ตามสะดวก (แนะนําว่าให้จองล่วงหน้าก่อนเข้ามา)
ครั้งนี้เราเลือกลองเป็น Chef’s Table อาหารไทยฟิวชั่นแบบ Tasting Menu 9-course (ท่านละ 2,400 บาท++) โดยที่ทางเชฟจะเลือกที่จะปรุงอาหารและครีเอตเมนูโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นอาหารที่เชฟเทเบิ้ลแห่งนี้จะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สามารถกลับมาทานซํ้าได้ไม่มีเบื่อ
ถึงแม้ว่าชื่อว่า tasting menu แต่ปริมาณคือเยอะนะ กินเสร็จอิ่มมากแม่
เชฟเซ้นท์–พิริยะ บุญประสาร เชฟที่ดูแลเมนูของทางร้าน Chef Next Door BKK นั้นเคยเป็นเชฟในร้านอาหาร Michelin Star มาก่อนที่จะมาเปิดร้านแห่งนี้ ซึ่งเชฟจะเป็นคนนําทุกๆจานมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะพร้อมกับอธิบายองค์ประกอบของแต่ละเมนู+ แนะนําวิธีการกินให้เอง
ประสบการณ์เชฟเทเบิ้ลสุดพิเศษแบบส่วนตัวสุดๆไปเลย (:
AMUSE-BOUCHES
มันหวานญี่ปุ่น พะโล้หมูสามชั้นและผักดอง
เริ่มต้นกับเมนูเรียกนํ้าย่อยจากแรก มันหวานญี่ปุ่นยัดไส้ด้วยพะโล้สามชั้นและผักดอง ตัวมันหวานถูกทอดมากรอบนอกนุ่มใน รสชาติมันญี่ปุ่นหวานๆตัดด้วยความหอมมันจากตัวพะโล้สามชั้น รสชาติลงตัวสุดๆ
กระทงทองพล่าปลาหมีก
กระทงทอดมากรอบๆยัดไส้พล่าปลาหมึก หอมตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดงมากๆ ราดซอสแสร่งว่า เปรี้ยวๆเผ็ดๆเหมือนซอสซีฟู้ด
เป็นเมนูเรียกนํ้าย่อยที่ช่วยเราล้างปาก พร้อมลุยมื้อหลักได้ดีเยี่ยม
SASHIMI
“Sashimi trio from different hometowns”
ปลาซาชิมิทะเลไทยกับน้ำพริกสาม ข.
(น้ำพริกสามภาค)
ต่อกันที่ซาซิมิเวอร์ชั่นไทยที่ทางร้านนําปลาทะเลไทยมารังสรรค์เป็นเมนูซาซิมิจานนี้ที่รวบรวมปลาสามชนิดทานคู่กับนํ้าพริกสามแบบจากสามภาคของไทย
-ปลาเก๋า+นํ้าพริกมะเขือปลาร้า (อีสาน)
-ปลาช่อนทะเล + น้ำพริกมะขามอ่อนกะปิ (ใต้)
-ปลาสร่องนกเขา + น้ำพริกมะแขว่นมิโซะ (เหนือ)
เราชอบทั้งสามชนิดเลยอ่ะ ตัวซาซิมิปลาชิ้นหนา เนื้อฉ่ำมาก ทานคู่กับนํ้าพริกแต่ละชนิดก็ได้รสชาติที่แตกต่างแต่เข้ากันสุดๆ เด็ดมากกกกกก
*ปลาทะเลไทยส่วนใหญ่ที่ตกได้จะมาจากเครือข่ายประมงชุมชนจากจังหวัดระนองและภูเก็ต มีทั้งออกเรือเล็กและปลาเลี้ยงในกระชังทะเล—ชนิดปลาในแต่ละวันที่เสิร์ฟจะเปลี่ยนไปตามปลาที่ตกมาได้รวมถึงเทคนิคในการปรุงก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
RICE NOODLE
ขนมจีนซาวน้ำแจงลอนกุ้ง
ต่อกันที่เมนูเส้น signature ของทางร้าน ขนมจีนซาวน้ำแจงลอนกุ้ง ที่หาทานได้ยากแล้ว
ขนมจีนเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลายไม่ว่าจะเป็นส้มโอ มังคุค กุ้งแห้ง ขิงอ่อน พริก กระเทียม ผักชีและแจงลอนกุ้งหมูสับ (มีลักษณะคล้ายทอดมัน แต่กรรมวิธีทำให้สุกจะแตกต่างกัน ส่วนใหญ่แจงลอนจะเอาไปย่างไม้ ไม่ใช้น้ำมันทอด)
เวลาทานให้ราดซอสกะทิลงบนตัวขนมจีน บีบมะนาวลงไปแล้วคลุกทุกอย่างให้เข้ากันก่อนทาน
ตัวซอสกะทิของทางร้านหอมน้ำตาลปี๊บที่ทางร้านเอาได้ทําการเคี่ยวมาอย่างดี รสชาติเลยละมุนหอมมันกําลังดี ตัดเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวและเผ็ดนิดๆ
เป็นเมนูที่ทานช่วงหน้าร้อนแล้วจะรู้สึกสดชื่น ทําให้อยากอาหารมากขึ้น
SOUP
แกงส้มปลาเก๋า
แกงส้มปลาเก๋าของทางร้าน Chef Next Door BKK จะมาแบบธรรมดาได้ไง XD
แกงส้มของทางร้านเป็นแกงส้มสไตล์ภาคกลาง ตัวซุปมีทั้งเนื้อปลาเก๋า ตับปลาเก๋า และหนังปลาเก๋าทอด 3 in 1 เลยจ้า เสิร์ฟคู่กับเห็ดชิเมจิ พริกชี้ฟ้าแดงย่างและผักลวก
ตัวหนังปลาถูกนําไปทอดกรอบส่วนเนื้อปลาทางร้านได้นําไปแช่ในสมุนไพรกับเกลือซึ่งช่วยทําให้โปรตีนลอกตัวและกลิ่นคาวจางหายไป
ตับปลาเก๋าได้ฟีลเหมือนทานตับห่าน (foie gras)
แกงส้มรสชาติเปรี้ยวเผ็ดกําลังดี พริกแกงเข้มข้นสุดๆ บอกได้เลยว่านี้คือมิติใหม่ของการทานแกงส้มของจริง
RAW & GRILL
ก้อยเนื้อและลิ้นวัวย่าง
ก้อยเนื้อหรือ beef tartare ปรุงรสด้วยพริกแกงโฮมเมดที่ผัดมาแล้ว เป็นการผสมผสานรสชาติภาคกลางเข้ากับเมนูอีสานแซ่บๆอย่างก้อยเนื้อได้ดีเยี่ยม
ส่วนตัวลิ้นวัวปรุงรสด้วยสมุนไพรแล้วเอามาย่างบนถ่าน
ทั้งสองเมนูทานคู่กับข้าวเกรียบ อย่างฟินอ่ะบอกเลย
PALATE CLEANSER
สับปะรดกับปลาเค็มทอดกะทิ
สับปะรดกับปลาเค็มทอดกะทิ เมนูล้างปากก่อนที่จะเข้าสู่ main course จานนี้ถูกดัดแปลงมาจากอาหารว่างไทยอย่างม้าฮ่อ
ปลาอินทรีย์เค็มสูตรภาคใต้ถูกทอดแล้วสับจนละเอียดผัดกับหัวกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าวกับพริกไทย ทานคู่กับสับปะรดสด
เมื่อสับปะรดหวานกรอบมาเจอปลาอินทรีย์เค็มที่หอม หวาน มัน รสสัมผัสหนึบๆ เป็นการผสมผสานของรสชาติที่แตกต่างแต่ลงตัวได้ดี
Main Course
ปานีคอฟต้าซอสแกงกะหรี่อินเดีย
อกเป็ดและสลัดแขก
กินมาหลายจาน พึ่งถึงจานหลักของวันนี้นะ XD
*ปกติจานนี้จะใช้เป็นซี่โครงแกะ แต่พอดีเราสองคนไม่ทานเนื้อแกะ เชฟเลนเปลี่ยนเป็นอกเป็ดดองเกลือ ให้แทนค่ะ
อกเป็ดใช้วิธีดองแบบ prosciutto ซึ่งทางร้านนำอกเป็ดไปดองกับเกลือและน้ำตาล พอกทิ้งไว้นานถึง 10 ชั่วโมง จากนั้นล้างน้ำและนำไปพอกสมุนไพรต่อ ย่างมาเสิร์ฟร้อนๆ ทานคู่กับซอสแกงกะหรี่อินเดีย
เสิร์ฟมาพร้อมสลัดแขกและมันฝรั่งบดปรุงรสด้วยเครื่องเทศและผสมอินเดียชีสโฮมเมดเข้าด้วยกันก่อนที่จะนําไปชุบเกล็ดขนมปัง ทอดให้กรอบ
ส่วนตัวชอบตัวซอสแกงกะหรี่อินเดียนี้มาก หอมเครื่องเทศอินเดียสุดๆ
PRE-DESSERT
Surprise course
(เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามวัตถุดิบที่เลือกใช้)
ไอศกรีมกระท้อนซอร์เบท์กับกะปิหวาน
ตบท้ายมื้อนี้ด้วยของหวานล้างปากสักหน่อย ของหวาน Chef Next Door BKK เราก็ไม่ผิดหวังอ่ะ บอกเลย
เริ่มกันที่ PRE-DESSERT กันก่อน ไอติมกระท้อนซอร์เบท์ท็อปด้วยกะปิหวาน ไอติมเปรี้ยวขึ้นใจ ตัดเลี่ยนได้ดีเว่อร์
DESSERT
เค้กแครอทครีมชีส ไข่เค็มกับผลไม้
เป็นเค้กแครอทโฮมเมดที่อร่อยเหาะมากแม่!!
แครนเบอร์รี่ มะยม ลูกเกดในตัวเค้กถูกเอาไปเชื่อมกับบรั่นดี 1 คืนก่อนที่จะเอามาผสมอบกับเนื้อเค้ก ท็อปด้วยครีมชีสไข่เค็ม ทานคู่กับไข่แดงเค็มขูด มะยมดองและวอลนัท
ทุกอย่างบนจานนี้เข้ากันสุดๆ เนื้อเค้กนุ่มกําลังดี ไม่หวานเกินไป รับรองว่าคนที่ไม่ชอบแครอทก็ต้องเลิฟ เกลี้ยงแน่นอน
DRINKS- MOCKTAIL
PINEAPPLE CHEESE PIE
นํ้าสับปะรดเข้มข้นผสมมะนาวและวานิลลาท็อปด้วยป๊อปคอร์น
สับปะรดรสชาติหวานฉํ่า แถมด้วยรสหวานหอมวานิลลาที่ปลายลิ้น สายหวานน่าจะชอบแก้วนี้
💰280 Baht
KOMBUCHA MOJITO
คอมบูชาที่ทางร้านChef Next Door BKK หมักเอง ผสมโซดาและเพิ่มความเปรี้ยวด้วยมะนาว
เปรี้ยวซ่าสดชื่นสุดๆ
💰 280 Baht
Chef Next Door BKK
Tasting Menu 9-course:
💰ท่านละ 2,400 บาท +
📌 จองได้ที่นี้
📌 https://goo.gl/maps/XhaSitEBjqbEcPjY8
🚗 มีที่จอดรถ
⏰ เปิดอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00
(หยุดทุกวันจันทร์)